ราคาเหล็กอาจสร้างสถิติสูงตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

เนื่องจากการผลิตฟื้นตัวขึ้นหลังวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ โรงงานในจีนต้องเผชิญกับราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้น โดยมีสินค้าสำคัญบางรายการ เช่น เหล็กเส้นพุ่งขึ้น 6.62% จากวันซื้อขายวันสุดท้ายก่อนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเป็นวันทำการที่สี่หลังจากวันหยุด กลุ่มวิจัย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การกลับมาทำงานใหม่อย่างต่อเนื่องของจีนอาจผลักดันราคาเหล็กให้สูงกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแผนห้าปีฉบับที่ 14 ของประเทศ (พ.ศ. 2564-2564)

สัญญาซื้อขายแร่เหล็กในประเทศพุ่งสูงอายุสัญญาที่ 1,180 หยวน (182) ดอลลาร์ต่อตันในวันจันทร์ โดยราคาถ่านโค้ก เศษเหล็ก และวัตถุดิบอื่นๆ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ตามรายงานของศูนย์วิจัยข้อมูลเหล็กของปักกิ่ง แลงก์แม้ว่าสินแร่เหล็กจะลดลง 2.94% ในวันอังคารที่ 1,107 หยวน แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย

จีนเป็นผู้ซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเกิดโรคระบาดนั้นโดดเด่นกว่าประเทศอื่นๆนั่นนำไปสู่การส่งคืนคำสั่งการค้าต่างประเทศไปยังประเทศจีนและส่งผลให้ความต้องการเหล็กเพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าว และแนวโน้มสามารถดำเนินต่อไป

แร่เหล็กซื้อขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 150-160 ดอลลาร์ต่อตัน และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเหนือ 193 ดอลลาร์ในปีนี้ หรืออาจถึง 200 ดอลลาร์ หากอุปสงค์ยังคงแข็งแกร่ง Ge Xin นักวิเคราะห์อาวุโสของ Beijing Lange Steel Information Research Center กล่าวกับ Global ครั้งในวันอังคาร

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเริ่มแผนห้าปีฉบับที่ 14 จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมต่อไป ดังนั้นความต้องการเหล็กก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

การจัดส่งเหล็กหลังวันหยุดเริ่มต้นเมื่อต้นปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว ตามแหล่งอุตสาหกรรมและปริมาณและราคาที่สูงขึ้น

เนื่องจากราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ค้าเหล็กบางรายจึงไม่เต็มใจที่จะขายหรือจำกัดการขายในขั้นตอนปัจจุบัน โดยคาดว่าราคาจะสูงขึ้นอีกในปลายปีนี้ ตามรายงานของกลุ่มวิจัยอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม บางคนยังเชื่อว่ากิจกรรมทางการตลาดของจีนมีบทบาทจำกัดในการผลักดันราคาเหล็ก เนื่องจากประเทศมีอำนาจต่อรองที่อ่อนแอในเวทีระหว่างประเทศ

“แร่เหล็กเป็นผู้ขายน้อยรายของนักขุดรายใหญ่สี่ราย ได้แก่ Vale, Rio Tinto, BHP Billiton และ Fortescue Metals Group ซึ่งคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว จีนต้องพึ่งพาแร่เหล็กจากต่างประเทศมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้จีนอยู่ในสถานะที่อ่อนแอในแง่ของอำนาจต่อรอง” Ge กล่าว


เวลาที่โพสต์: 18 มี.ค.-2564